ทริปเที่ยวคาโกชิม่าเมืองในฝันของคนรักธรรมชาติ

ทริปเที่ยวคาโกชิม่าเมืองในฝันของคนรักธรรมชาติ

DAY 1 : เที่ยวมรดกโลกทางวัฒนธรรม “สวนเซ็นกันเอ็น” ชมประวัติศาสตร์ยาวนาน 800 ปี

Ohayoo! Japan ครั้งนี้เราบินมาลงที่สนามบินฟุกุโอกะ แล้วนั่งรถไฟชินคันเซ็น Green car มุ่งตรงเข้าสู่จังหวัดคาโกชิม่า

มื้อแรกของทริปนี้ เราจะได้ลิ้มรสเนื้อวัวดำและหมูดำวัตถุดิบขึ้นชื่อของคาโกชิม่า

หลังจากเติมพลังกันแล้วเราเดินทางมาเที่ยวชม สวนเซ็นกันเอ็น (Sengan-en) แหล่งรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในยุคเอโดะ และสวนแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในหมวดของสถานที่แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจิของญี่ปุ่น

และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวเกาะซากุระจิมะที่สวยงามมากๆ จุดหนึ่งด้วย

นอกจากความสวยงามของตัวอาคารและความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ที่สวนแห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้เข้าร่วมกันด้วย เช่น การแต่งชุดซามูไรถ่ายภาพ หรือจะเป็นการประดิษฐ์พวงกุญแจจากเครื่องแก้ว เป็นต้น

คืนนี้เราก็มาพักผ่อนกันที่ Hogetsu บ้านพักโบราณของซามูไรแห่งคาโกชิม่าที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เพื่อรับรองผู้เข้าพักแบบไพรเวทจำกัดเพียง 1 ห้องเท่านั้น

DAY 2 : ผจญภัยในเส้นทางเดินป่าดึกดำบรรพ์ ยากุสึกิแลนด์

เริ่มการผจญภัยกันด้วยการลงเรือจากท่าเรือคาโกชิม่าไปยังท่าเรือมิยาโนอุระ เกาะยาคุชิมะ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม. โดยครั้งนี้เราเลือกที่นั่งแบบพรีเมี่ยมสบายๆ ชิลๆ แนะนำให้ตุนเสบียงกันให้พร้อมนะคะ

หลังจากกินลมชมทะเลงีบหลับกันจนเต็มอิ่ม เราก็มาถึง เกาะยาคุชิมะ เจ้าของฉายา “กาลาปากอสแห่งเอเชีย” กันแล้ว แต่ก่อนที่เราจะออกไปผจญภัยในป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้ เราจะมารับฟังข้อมูลและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กันที่ ศูนย์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมยาคุชิม่า (Yakushima Tourist Center) โดยครั้งนี้มือสมัครเล่นแบบพวกเราเลือกเป็นกิจกรรมเดินป่าระยะสั้นพร้อมไกด์ท้องถิ่นผู้ชำนาญเส้นทางที่จะพาเราไปในจุดลับๆ ที่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้กัน แค่ฟังก็ตื่นเต้นอยากพุ่งตัวออกไป ผจญภัยตามรอยแอนิเมชั่นดังจากค่ายสตูดิโอ จิบลิ (Studio Ghibli) เรื่อง Princess Mononoke กันแล้ว

จุดเข็คอินแรกของเราเริ่มกันที่ ชายหาดนากาตะ อินาคะฮะมะ (Nakata Inakahama) นอกจากลมทะเล เกรียวคลื่นและหาดทรายสีขาวอันสวยงามแล้ว

ชายหาดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ชื่นชมชายหาดแสนสวยแล้ว ก็ถึงเวลาผจญภัยในเส้นทางป่าดึกดำบรรพ์ ยากุสึกิแลนด์ (Yakusugi Land) ผืนป่าแห่งที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์แห่งพลังธรรมชาติ

เที่ยวสนุกกันมาทั้งวันเราก็มาพักผ่อนกันที่ Sankara Hotel & Spa Yakushima โรงแรมท่ามกลางธรรมชาติวิวทะเลและเกรียวคลื่นสุดผ่อนคลาย

DAY 3 : สัมผัสพลังแห่งกระแสน้ำอันงดงาม ณ  น้ำตกโอโคโนะทากิ

วันนี้เริ่มจากการทานอาหารเช้าและพักผ่อนชมความสวยงามของที่พัก แล้วไปช้อปปิ้งของฝากขึ้นชื่อที่ Yakushima Bless แหล่งรวมงานฝีมือแบบดั้งเดิมจากไม้สนยาคุสึกิซึ่งเป็นผลงานจากฝีมือของศิลปินชื่อดังทั่วประเทศญี่ปุ่น

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่นเสร็จเราจะไปผจญภัยกันต่อกับการรับพลังแห่งธรรมชาติอันสดชื่นจากละอองน้ำและเสียงของกระแสน้ำที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายจาก น้ำตกโอโคโนะทากิ (Oko No Taki Waterfall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะยากุชิมะ มีความสูงถึง 88 เมตร และยังติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น

และที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้พวกเราได้ทำกันด้วย เช่น การพายเรือคายัคชมวิว ตกปลา เป็นต้น โดยครั้งนี้เราเลือกเป็นการพายเรือคายัคออกไปชื่นชมกับทิวทัศน์อันงดงามและถ่ายรูปอัปลงโซเชียลกันแบบรัวๆ กันไปเลย

หลังจากสนุกสนานกันเต็มที่ก็ถึงเวลาที่เราต้องกล่าวลาเกาะยาคุชิมะกันแล้ว เพื่อเดินขึ้นเรือกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ที่ ท่าเรืออิบูซูกุ โดยคืนนี้เราเข้าพักกันที่ Ibasuki Hakusuikan

DAY 4 : แวะมู ณ ศาลเจ้าคิริชิมะจิงงุ ศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น

เช้าวันนี้เราใช้เวลาชิลๆ กับการเดินเล่นชมเมืองบริเวณสถานี JR คิริชิมะจินกู แล้วเดินทางไปยัง ศาลเจ้าคิริชิมะ (Kirishima Jingu Shrine) เจ้าของฉายานิกโกแห่งตะวันตก

มื้อกลางวันเราจะมาสนุกไปกับการรับประทานเมนู “โซเม็ง” ขึ้นชื่อของหุบเขาทาเคงาวะ ซึ่งจะมีความเก๋ไก๋ด้วยการเสิร์ฟด้วยอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเป็นการหมุนของน้ำแล้วปล่อยเส้นลงไปให้ผู้ทานได้คีบขึ้นมารับประทานกันอย่างสนุกสนาน

หลังจากเติมพลังกันแล้ว เราจะเดินทางไปยังจุดเช็คอินที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ตอนนี้ที่ ฟาร์มเลี้ยงม้า Horse Trust ฟาร์มที่นอกจากจะได้ชมความสวยและสง่างามของเหล่าม้ากว่า 150 ตัว ด้วยการเลี้ยงแบบอิสระท่ามกลางทุ่งหญ้าเสมือนอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ

ซึ่งทำให้ม้าที่อยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้มีความเครียดต่ำและมีนิสัยที่อ่อนโยนขึ้น และที่ปังสุดๆ คือในวันที่อากาศเป็นใจจะได้ชมวิวอลังการภูเขาไฟซากุระจิมะอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เลือกทำอีกมากมาย

คืนนี้เราจะพักกันที่ Shiroyama Hotel Kagoshima

แล้ววันนี้เราก็ต้องเดินทางกลับกันแล้ว บอกเลยว่าทริปนี้เป็นการฟอกปอดและได้เติมพลังจากธรรมชาติแบบสุดๆ หากมีโอกาสครั้งหน้าอยากลองทริปแบบเดินป่าเต็มรูปแบบสักครั้งอย่างแน่นอน

Back to blog