เที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายน ชมดอกไม้และกำแพงหิมะในหน้าร้อนที่เจแปนแอลป์

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายน ชมดอกไม้และกำแพงหิมะในหน้าร้อนที่เจแปนแอลป์

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่เที่ยวในประเทศญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนวันนี้ JTB มีแพลนทริปมาแนะนำให้ สำหรับเดินทางประมาณ 4 - 5 วัน จะมีที่เที่ยวไฮไลท์ที่ไหนบ้างไปชมกันเลย

วันที่ 1 : ครั้งนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินนานาชาติจูบุเซ็นแทร์ นาโกย่า จังหวัดกิฟุ หากใครมีเวลา ภายในบริเวณของสนามบินมีพิพิธภัณเครื่องบินให้ได้ชมกันด้วย

ก่อนจะมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านชิราคาวาโกะซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเราในวันนี้ เราจะแวะที่เมืองเซคิซึ่งเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์มีดเซคิฮาโมโนะ (Seki Hamono Museum) เพื่อชมประวัติความเป็นมาและกระบวนการผลิตมีดเซคิแบบดั้งเดิม ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมีดคุณภาพดีเยี่ยมแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และยังได้ร่วมกิจกรรมทำกรรไกรจิ๋วสุดน่ารักเพื่อเป็นของที่ระลึก แอดได้ลองไปทำมาแล้วสนุกมากน้องๆ หนูๆ ก็ร่วมทำได้ด้วยนะ

หลังจากสนุกสนานกันแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายหลักของเราที่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (SHIRAKAWAGO VILLAGE) หมู่บ้านมรดกโลกที่เมื่อได้มา จะต้องตกหลุมรัก เพราะที่หมู่บ้านแห่งนี้ไม่ว่าฤดูกาลไหนก็ดูสวยงามอยู่เสมอ

วันที่ 2 : เช้าวันนี้เราเดินทางสู่ เส้นทางสายอัลไพน์ ที่เราจะสามารถเล่นหิมะได้ในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมานั่นคือ การได้มาชม กำแพงหิมะ เจแปน แอลป์ (Snow Corridor) หรือ โอทานิ โรด (Otani Road) ที่มีระยะทางยาวกว่า 3,000 เมตร และจุดสูงสุดของกำแพงหิมะสูงประมาณ 20 เมตร ที่จะสามารถมาเที่ยวได้ปีละครั้งในช่วงกลางเดือนเมษายน - ปลายเดือนพฤษภาคม

จากนั้นเราจะไปต่อกันที่ เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) เป็นเขื่อนแนวโค้งที่ใหญ่ที่สุดและมีความสูงที่สุด ซึ่งเป็นความสำเสร็จด้านวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ใช้ระยะเวลาในการสร้างกว่า 7 ปี โดยการเที่ยวชมเขื่อนคุโรเบะมีหลากหลายจุดไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวการปล่อยน้ำสุดอลังกาล ลานชมวิว ทางเดินบนยอดเขื่อน

ก่อนเข้าที่พักเราจะไป อิ่มอร่อยกับขาปูยักษ์ แสนอร่อย แล้วจึงกลับ เข้าที่พักแช่ออนเซ็น ที่ Hoshino Resort Kai Alps ให้ผ่อนคลายสบายตัวแถมที่นี่ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ

วันที่ 3 : วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวชมธรรมชาติสุดอลังกาลอันสวยงามที่แนะนำให้มาเยือนกันสักครั้ง ณ คามิโคจิ (Kamikochi) ซึ่งเป็นแหล่งเที่ยวชมธรรมชาติ สัมผัสแสงแดด สายลมและสายน้ำที่บริสุทธิ์สวยงาม และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก คามิโคจิเป็นดินแดนแห่งหุบเขาอันสวยงามทางตอนเหนือของเทือกเขาเจแปนแอลป์ (Japan Alps) ในจังหวัดนากาโนะ (Nagano) ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto) และ ทาคายามะ(Takayama)

หลังจากเดินเล่นเต็มอิ่มกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์กันเต็มปอดแล้ว เราจะเดินทางเข้าไปยังเมืองมัตสึโมโต้เมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเติม โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ ปราสาทมัตสึโมโต้ (MatsumotoCastle) แลนด์มาร์กแห่งนากาโนะกัน ฉายาปราสาทอีกา ได้มาเพราะป้อมปราการหรือที่เรียกว่า เท็นชุคาคุ และตัวปราสาทนั้นมีสีดำเหมือนกับสีของอีกานั่นเอง

แล้วเดินทางไปร่วมงาน เทศกาลชิบะซากุระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะได้ชื่นชมความสวยงามตะมุตะมิของ ทุ่งดอกพิงค์มอส ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิสุดอลังกาล

วันที่ 4 : ตื่นเช้าออกไปชมความสวยละมุนของม่านดอกวิสทีเรีย ณ สวนดอกไม้อาชิคากะ (Ashikaga Flower Park) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi) หนึ่งในจุดชมดอกวิสทีเรียที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นมีพื้นที่กว่า 60 ไร่ ชมอุโมงค์วิสทีเรียงยาวกว่า 100 เมตร และต้นวิสทีเรียอายุกว่า 160 ปี

เดินเล่น ชมเมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ เมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ให้คงความเป็นเมืองโบราณที่จะพาเราได้ย้อนเวลาไปย้อนเวลาสู่ยุคเอโดะ จนทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการขนานนามให้เป็นเอโดะน้อย “เอโดะน้อย”

อินกับบรรยากาศย้อนยุคและเต็มอิ่มกับการชมธรรมชาติระดับโลกกันแล้ว มาเปลี่ยนบรรยากาศเข้าเมืองไปช้อปปิ้งกันแบบตัวปลิวกันที่แหล่งช้อปปิ้งสุดชิคอย่าง ย่านชินจูกุ ก่อนเดินทางกลับบ้านกัน

Back to blog