ปราสาทโอซาก้า...ไม่มาถือว่าพลาด

ปราสาทโอซาก้า...ไม่มาถือว่าพลาด

ใครที่มาเที่ยวเมืองโอซาก้าแล้วไม่ได้แวะมาชมปราสาทโอซาก้า ถือว่ายังมาไม่ถึงอย่างแท้จริง เพราะปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโอซาก้า นอกจากความยิ่งใหญ่สวยงามตระการตาแล้ว ปราสาทแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ปราสาทโอซาก้า ปราสาทคู่ประวัติศาสตร์ชาติญี่ปุ่น
ปราสาทโอซาก้า ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2126 โดย ท่านโชกุนโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ  ผู้ซึ่งรวบรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่น จนได้รับสมญานามว่า "นโปเลียนแห่งญี่ปุ่น” จึงทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นศูนย์กลางความเจริญในสมัยนั้น แต่ปราสาทที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ได้รับการก่อสร้างขึ้นใหม่จากผลทางสงครามโบชินและสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมีการบูรณะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2540
โดยบริเวณทางเข้าสวนรอบปราสาทจะเป็นพื้นที่ๆ ซึ่งจะมีผู้คนพากันมาเดินเล่นและออกกำลังกายเป็นประจำ ส่วนที่สะดุดตาที่สุดคือบนรั้วกั้น ที่ถูกประดับตกแต่งด้วยผลงานศิลปะเป็นตุ๊กตานกน่ารักมากๆ
อุโมงค์ต้นไม้บริเวณทางเดินในส่วนก่อนเข้าปราสาท เป็นจุดที่อยากแนะนำให้มาถ่ายภาพ ยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพีคๆ สวยมาก
คูน้ำรอบปราสาทนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อต้านศัตรูในสมัยโบราณ
ในที่สุดก็เดินถึงตัวปราสาทโอซาก้าแล้ว รับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่และสวยงามมากๆ สมแล้วที่ในสมัยก่อน ปราสาทแห่งนี้เป็นศูนย์กลางความเจริญของญี่ปุ่น

โดยภายในได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวร เพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ
เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้นบน ท่านจะสามารถชมวิวเมืองจากมุมสูงได้แบบพาโนราม่า และสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างของที่ปราสาทโอซาก้าแห่งนี้ก็คือ รูปปั้นปลาสีทองบริเวณมุมหลังคาของปราสาทสวยงามมาก
เสียค่าเข้าชมหรือไม่
หากเดินเล่นบริเวณสวนด้านนอกจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าต้องการเข้าชมภายใน ต้องเสีย ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมฟรี
โดยตัวปราสาทเปิดทำการเวลา 9:00 - 17:00 น.
และบริเวณรอบๆ ปราสาทก็จะมีร้านค้าของทานเล่นให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อหากันอยู่หลายร้านอีกด้วยนะคะ

การเดินทางมาปราสาทโอซาก้า
สามารถเดินทางโดยทั้งรถไฟและรถไฟใต้ดินแล้วเดินต่อมาอีกไม่ไกล  
- รถไฟ          ให้ลงที่สถานี Osakajokoen Station (JR Loop Line)  
- รถไฟใต้ดิน ให้ลงที่สถานี Tanimachi 4 - Chrome Station (Tanimachi Subway, Chuo Subway Line)
Cr.Photo : Variyaporn S.
Back to blog